จังหวัดนครปฐมวางแนวทางแก้ไขปัญหาสาเหตุน้ำท่วมขัง ในพื้นที่โดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ อาจส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแรง

          เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 ที่ห้องประชุมพิมานปฐม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวางแนวทางแก้ไขปัญหา ติดตามสถานการณ์กรณีน้ำท่วมขังบนผิวจราจร และในพื้นที่บริเวณโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครนครปฐม  อาจส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแรงขององค์พระปฐมเจดีย์ ตามที่มีข้อกังวลของประชาชนปรากฎข่าวสารต่างๆ นั้น
 
       จากสถานการณ์ และสาเหตุการเกิดน้ำท่วม เมื่อวันที่ 31 ส.ค. และวันที่ 1 ก.ย. 64 เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมผิวจราจร ในพื้นที่เทศบาลนครนครปฐม โดยเฉพาะผิวจราจรบางส่วนของถนนโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ถนนราชวิถี และถนนซ้ายพระ สาเหตุเกิดจากมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางคลองเจดีย์บูชา ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำลงไปสู่แม่น้ำท่าจีน เป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำ ทำให้ระดับน้ำในคลองสูง ประกอบกับในวันที่ 31 ส.ค. 64 ปริมาณฝนตกในพื้นที่จังหวัดนครปฐม  104 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำในเขตเมืองมากและระบายไม่ทัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำต้นไม้ที่ขวางการระบายน้ำในคลองออก ทำให้ระดับน้ำในคลองระบายเร็วขึ้นและลดลง
 
        ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ดังนี้ แผนระยะสั้น  ทำการลอกท่อระบายน้ำถนนที่รับผิดชอบ ซึ่งรวมถึงบริเวณโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ /  ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมรวม 18 จุด ในจำนวนนี้เป็นบริเวณโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ 2 จุด/ จัดระบบเครือข่ายการแจ้งเตือนน้ำท่วมขัง และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วแก้ไขปัญหา 
 
       ในส่วนแผนระยะยาวที่จะดำเนินการต่อไป คือ กรมทางหลวง อยู่ระหว่างการออกแบบขยายถนนเพชรเกษมช่วงลาดปลาเค้า- ราชบุรี ซึ่งมีการออกแบบให้มีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำแผนแม่บทระบายน้ำในพื้นที่เทศบาลนครนครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงแก้ไขคำสั่ง จพง.จราจร ห้ามรถบรรทุกหนักเข้าพื้นที่รอบองค์พระปฐมเจดีย์ 
  
     สำหรับประเด็นความมั่นคงแข็งแรงขององค์พระปฐมเจดีย์ นั้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64  กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดผู้ชำนาญการไปตรวจสอบองค์พระปฐมเจดีย์ พบว่ายังคงมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่มีรอยร้าว หรือทรุดตัวแต่อย่างใด ซึ่งวิศวกรจากสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากรระบุว่า หากมีน้ำท่วมบริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ไม่เกิน 1 ชั่วโมง จะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานรากขององค์พระปฐมเจดีย์ แต่จะเริ่มมีผลกระทบก็ต่อเมื่อมีน้ำท่วมขังมากกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป จากการพิจารณาลักษณะทางกายภาพขององค์พระปฐมเจดีย์ พบว่าฐานบางส่วนเป็นอิฐ และมีการใช้วัสดุผิวมันป้องกันการซึมของน้ำฝน รวมถึงมีกำแพงแก้วป้องกันน้ำท่วมเข้าองค์พระปฐมเจดีย์ 
 
        ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงขององค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อปี 2541 แล้วพบว่ามีความมั่นคงแข็งแรง และกรมศิลปากร ได้มีการวัดความเอียงขององค์พระปฐมเจดีย์อยู่เป็นประจำ เชื่อว่ายังคงมีความมั่นคงแรงแรง ไม่มีการทรุดตัวหรือร้าวตามที่กังวลแต่อย่างใด 
……………………..


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image


คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar